ยโสธรเเหล่งของบั้งไฟ รวมไปถึงตำนานความเชื่อเกี่ยวกับพญาเเถน เเละยังมีเเลนด์มาร์คเด่นอย่างใน อุทยานสวรรค์วิมานพญาแถน หรือ มหายุทธแดนอีสาน สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวจังหวัดยโสธร เเละนักท่องเที่ยว อุทยานสวรรค์วิมานพญาแถน หรือ มหายุทธแดนอีสาน ตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำทวนฝั่งขวา ถนนมงคลบูรพา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงนิเวศ ซึ่ง้เป็นแหล่งเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
ตำนานเล่าขาน (วิกิพีเดีย) จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดที่มีประเพณีการปฏิบัติสืบเนื่องกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะประเพณีที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ความเชื่อ และวิถีชีวิตของชาวยโสธร ซึ่งมีความเชื่อว่าโลกนั้นประกอบด้วย โลกมนุษย์ โลกเทวดา และโลกบาดาล โดยโลกมนุษย์อยู่ภายใต้อิทธิพลของโลกเทวดาซึ่งขาวอีสานเรียกเทวดาว่าพญาแถน ซึ่งพญาแถนมีอิทธิพลต่อ ฝน ฟ้า ลม หากมนุษย์ทำให้พญาแถนโปรดปรานหรือพอใจ ก็จะบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล จึงเกิดพิธีการบูชาพญาแถนโดยการใช้บั้งไฟ เพื่อแสดงการเคารพและเป็นการขอฝนจากพญาแถน อันเป็นที่มาของประเพณีบุญบั้งไฟจังหวัดยโสธรอันโด่งดัง จากตำนานเรื่องเล่าอันถือว่ามีความสำคัญต่อจังหวัดยโสธรดังกล่าวข้างต้น จังหวัดยโสธรจึงจัดสร้าง “วิมานพญาแถน” ขึ้นบริเวณลำทวนเพื่อใช้เป็นสถานที่ที่แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัด เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของจังหวัด ซึ่งภายในวิมานพญาแถนนั้นประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่สะท้อนถึงตำนานบุญบั้งไฟของยโสธร จึงจัดสร้าง วิมานพญาแถน ขึ้นบริเวณลำทวนเพื่อใช้เป็นสถานที่ที่แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัด เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของจังหวัดอโดยเริ่มก่อสร้างวิมานพญาแถน มาตั้งแต่สมัย นายวันชัย อุดมสิน อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรและอดีตรองอธิบดีกรมการปกครอง ได้เริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรก ต่อมาเมื่อนายพีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ขณะนั้น ได้จัดสรรงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดคือ ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ มาดำเนินการก่อสร้าง เป็นช่วงๆ ปี คาดว่าจะใช้งบทั้งสิ้นประมาณ 200 ล้านบาท เป้าหมายเพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกลุ่มจังหวัด
ภายในอุทยานสวรรค์วิมานพญาแถน ประกอบด้วยสถานที่สองส่วนได้เเก่ พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก
คางคกสีอิฐส้มอมน้ำตาลตัวใหญ่ตั้งตะหงานเป็นเเลนด์มาร์คของจังหวัดยโสธร ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาทั้งประวัติ เเละตำนานที่คนพื้นที่นับถือรวมไปถึงพิพิธภัณฑ์คางคกเเต่ละสายพันธ์ ไช่เเล้ว วันนี้เราจะพาทุกคนมา เที่ยวพิพิธภัณฑ์ พญาคันคาก จังหวัดยโสธร
พิพิธภัณฑ์ พญาคันคาก เป็นพิพิธภัณฑ์รูปคางคกขนาดยักษ์ มีจัดแสดงนิทรรศการและโครงการสื่อประสมต่างๆ เกี่ยวกับสัตว์จำพวกกบ ตั้งอยู่ที่ ตำบล ในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร อาคารพญาคันคาก สร้างขึ้นเป็นรูปร่างพญาคันคาก มีความสูง 19 เมตร พื้นที่รวม 835 ตารางเมตร งบประมาณการก่อสร้าง 18.97 ล้านบาท ภายในประกอบด้วยพื้นที่จัดนิทรรศการจำนวน 4 ชั้น เเละหนึ่งจุกชมวิวคือ- ชั้น 1 แสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองยโสธร
- ชั้น 2 ตำนานพญาแถนและพญาคันคาก
- ชั้น 3 ตำนานและเรื่องราวของบั้งไฟ
- ชั้น 4 อัตลักษณ์เมืองยโสธร
- ชั้น 5 จุดชมวิวเมืองยโสธร
ตำนานเล่าขาน (วิกิพีเดีย) ตำนานนั้นมีอยู่ว่า พญาคันคากเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยชาติเป็นโอรสของกษัตริย์ เหตุที่ได้ชื่อว่า “พญาคันคาก” เป็นเพราะเมื่อครั้งประสูติมีรูปร่างผิวพรรณเหมือนคางคก หรือที่ชาวอีสานเรียกกันว่า คันคาก และถึงแม้พระองค์จะมีรูปร่างอัปลักษณ์ แต่พระอินทร์ก็คอยช่วยเหลือ จนพญาคันคากเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน จนลืมที่จะเซ่นบูชาพระยาแถน พระยาแถนจึงโกรธ ไม่ยอมปล่อยน้ำฝนให้ตกลงมายังโลกมนุษย์ ศึกการต่อสู้ระหว่างพญาคันคากและพญาแถนจึงเกิดขึ้น โดยพญาคันคากได้นำทัพสัตว์ต่างๆ ขึ้นไปรบ จนได้รับชัยชนะ พญาแถนจึงปล่อยให้ฝนตกลงมาเช่นเดิม แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบูชาเป็นประจำทุกปี จึงเป็นที่มาว่าเมื่อถึงเดือนหกอันเป็นต้นเดือนฤดูฝน ชาวอีสานจึงทำบั้งไฟจุดขึ้นบนฟ้าถวายพญาแถน เพื่อฝนจะได้ตกต้องตามฤดูกาลนั่นเอง เเละยังมีอีกหนึ่งตำนาน
เส้นทางมายังเที่ยววิมานพญาแถน จังหวัดยโสธร ตำบล ในเมือง อำเภอเมืองยโสธร ยโสธร 35000
